เบเกอรี่ (Bakery) คือ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากแป้งสาลีแปรรูปและทำให้สุกโดยการอบ โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่
1. ขนมปัง (Bread) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการใช้ยีสต์ ซึ่งจะมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ แป้งสาลี ยีสต์ เกลือ น้ำและส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม ไข่ น้ำตาล ผลไม้ ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะทำให้เกิดขนมปังประเภทต่างๆ มากมาย เช่น ขนมปังผลไม้ ขนมปังหวาน เดนนิสชนิดต่างๆ
1. ขนมปัง (Bread) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการใช้ยีสต์ ซึ่งจะมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ แป้งสาลี ยีสต์ เกลือ น้ำและส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม ไข่ น้ำตาล ผลไม้ ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะทำให้เกิดขนมปังประเภทต่างๆ มากมาย เช่น ขนมปังผลไม้ ขนมปังหวาน เดนนิสชนิดต่างๆ
2. คุ้กกี้ (Cookies) วัตถุดิบในการทำคุ้กกี้ จะคล้ายกับเค้กมาก คือ มีแป้ง เนย นม ไข่ น้ำตาล สิ่งที่ช่วยให้ขึ้นฟูและส่วนผสมอื่นๆ
3. เค้ก (Cake) วัตถุดิบที่ใช้ในการทำเค้ก ได้แก่ แป้งสาลี น้ำตาล เกลือ ผงฟู นม ไข่ ไขมัน และกลิ่นรส
4. เพสตรี้ (Pastry) วัตถุดิบที่ใช้ในการทำเพสตรี้เป็นส่วนผสมหลัก ได้แก่ แป้งสาลี ไขมัน น้ำ เกลือ ไข่ มี 2 ชนิด คือ พายร่วนและพายชั้น
ธุรกิจร้านเบเกอรี่ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจในฝันของใครหลายคน ทว่า การเปิดร้านไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยทั้งฝีมือ อุปกรณ์และระบบจัดการที่พร้อมสมบูรณ์ ร้านเบเกอรี่ครบวงจรที่เปิดได้ง่ายๆ มีจุดขายจากเมนูต่างๆกว่า 80 รายการ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการรับประทานเบเกอรี่
กลยุทธ์ตลาด
สิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือ ทำอย่างไรให้ขนมภายในร้าน มีคุณค่าน่าสนใจน่าซื้อ คุ้มกับค่าเงินที่ผู้ซื้อต้องเสียไป พูดง่ายๆ ว่าทำอย่างไรถึงจะให้ขนมขายดี
1. บอกลูกค้าล่วงหน้าถึงตัวขนมที่คุณจะวางขาย ถ้าวางแผนจะทำขนมชนิดพิเศษกว่าที่มีขายตามปกติ เช่น อาจเป็นขนมสำหรับเทศกาลต่างๆ ก็ควรจะบอกลูกค้า ให้ทราบล่วงหน้าถึงขนมนั้นๆ เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาอุดหนุนร้านอีกด้วย สามารถทำให้กำหนดได้ว่าขนมชนิดใด ที่ลูกค้าสนใจมากที่สุด
2. บอกให้ลูกค้ารู้จักชื่อขนม วิธีง่ายๆและดีที่สุดคือ เขียนชื่อขนมบอกไว้ให้สะดุดตา เป็นการกระตุ้นความสนใจ นอกจากนี้ยังมีวิธีการที่ควรทำคือ ถุงที่ใช้ใส่ขนม นอกจากจะต้องมีชื่อร้านและสัญลักษณ์ของร้านแล้วควรจะมีชื่อขนมที่ขายอยู่ด้วย
3. การจัดขนมในร้าน การโชว์ขนมก็คือ การให้ขนมในร้านมีคนเห็นและสะดุดตามากที่สุด ลักษณะพิเศษบางประการของขนม จะช่วยให้ลูกค้าจดจำชนิดและชื่อของขนมได้ เช่น ขนมปังฝรั่งเศส และควรให้คำอธิบายสั้นๆ สำหรับขนมที่มีลักษณะที่แตกต่างไป จากปกติจะทำให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น ในการโชว์ขนมควรเน้นเรื่องสีของขนม เช่น ไม่ควรวางขนมที่มี สีเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันไว้ด้วยกัน เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้ซื้อ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุดในการจัดโชว์หน้าร้าน
4. มีตัวอย่างให้ลองชิมสำหรับผู้ซื้อ เมื่อมีการแนะนำสินค้าใหม่ วิธีที่ดีที่สุด คือ การนำเอาขนมตัวใหม่มาเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าทดลองรับประทาน วิธีนี้ใช้ได้ผลมากเพราะลูกค้าจะกระตือรือร้นมากในการทดลองสิ่งใหม่ๆ
5. การบรรจุหีบห่อ ปัจจุบันการบรรจุหีบห่อมีความสำคัญมากต่อราคาขนมอบ เพราะค่านิยมในการซื้อแปรเปลี่ยนไป การออกแบบ สีสันให้เหมาะสมกับขนมอบมีมากขึ้น การบรรจุหีบห่อขนมก่อนที่จะนำออกขายนิยมกันมาก เนื่องจาก
• ทำให้ขนมเก็บไว้ได้นานและทำให้สดอยู่เสมอ ตลอดเวลาการวางขาย
• ถูกสุขลักษณะ
• สะดวกต่อการจับต้องและการเก็บ
• ผู้ซื้อสามารถแลเห็นลักษณะของขนมได้อย่างชัดเจน
• ใช้เนื้อที่ในการเก็บน้อย สะดวกในการขนส่งและการวางโชว์เวลาขาย
• ทำให้อยากซื้อมากขึ้น
• ถูกสุขลักษณะ
• สะดวกต่อการจับต้องและการเก็บ
• ผู้ซื้อสามารถแลเห็นลักษณะของขนมได้อย่างชัดเจน
• ใช้เนื้อที่ในการเก็บน้อย สะดวกในการขนส่งและการวางโชว์เวลาขาย
• ทำให้อยากซื้อมากขึ้น
6. ให้คำแนะนำ ปรึกษาและอธิบายด้วยความเต็มใจ อย่าปล่อยให้ลูกค้าสับสนกับชนิด ลักษณะและรสชาติของขนมที่แตกต่างกันแต่ควรให้ความกระจ่างกับลูกค้า และต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า เรามีความเต็มใจ และยินดีที่จะให้บริการลูกค้าอยู่เสมอ
7. จัดรายการพิเศษเพื่อขอบคุณลูกค้า การพยายามจัดหาสิ่งใหม่ๆให้กับลูกค้า จะเป็นอีกวิธีที่ทำให้ลูกค้าประทับใจ ในต่างประเทศเจ้าของร้านบางรายส่งเสริมการขายโดยการจัดรายการพิเศษ เพื่อขายขนมปังแฟนซี สำหรับเด็กๆ วิธีนี้จะทำให้คุณทราบถึงความพอใจของลูกค้าอีกด้วย
8. รับฟังคำแนะนำจากลูกค้า อย่าลังเลใจ ในการถามหรือขอความคิดเห็นจากลูกค้า เพราะคือโอกาสที่จะทำให้คุณรู้จักลูกค้ามากขึ้น และลูกค้าจะรู้สึกเชื่อถือในร้านของคุณ ผลที่ตามมาก็คือลูกค้าจะกลับมาอุดหนุนที่ร้านอีกและยังจะบอกต่อๆกันไปถึงคุณภาพและความพิถีพิถันของขนมในร้านของคุณ
แหล่งจำหน่ายอุปกรณ์และวัตถุดิบ
1. บริษัท คิงแมชชีนส์ กล้วยน้ำไทการช่าง จำกัด ถ.พระราม 4 ใกล้สี่แยก ม.กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2249-5620, 0-2249-5235
2. เกียรติโชคชัยเบเกอรี ตลาดโชคชัย 4 กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2538-6756
3. กิตติวัฒนา ถนนสุขุมวิท 77 (ซอยอ่อนนุช) กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2321-0436, 0-2322-8185
4. บริษัท ยูเอฟเอ็มฟู้ดเซ็นเตอร์ จำกัด ซอยสุขุมวิท 33/1, ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2259-0620-30, 0-2260-5280-300
5. ร้านซันสโตร์ ลาดพร้าว 99 (ติดกับร้านอาหารวนิดาอาหารเวียดนาม) กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2935-0800
6. ห้างหุ้นส่วนจำกัด บิ๊กเบเกอร์เซ็นเตอร์ สยามสแควร์ ซอย 2 กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2654-6334-5
7. บริษัท กุหลาบเบเกอรี่เทรดดิ้ง จำกัด โทร.0-2222-9256
2. เกียรติโชคชัยเบเกอรี ตลาดโชคชัย 4 กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2538-6756
3. กิตติวัฒนา ถนนสุขุมวิท 77 (ซอยอ่อนนุช) กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2321-0436, 0-2322-8185
4. บริษัท ยูเอฟเอ็มฟู้ดเซ็นเตอร์ จำกัด ซอยสุขุมวิท 33/1, ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2259-0620-30, 0-2260-5280-300
5. ร้านซันสโตร์ ลาดพร้าว 99 (ติดกับร้านอาหารวนิดาอาหารเวียดนาม) กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2935-0800
6. ห้างหุ้นส่วนจำกัด บิ๊กเบเกอร์เซ็นเตอร์ สยามสแควร์ ซอย 2 กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์: 0-2654-6334-5
7. บริษัท กุหลาบเบเกอรี่เทรดดิ้ง จำกัด โทร.0-2222-9256
ขอบคุณข้อมูล : BOC ศูนย์ธุรกิจอุตสาหกรรม
ที่มา www.sanook.com