วิธี "คุมกำเนิด" อย่างไรไม่ให้ตั้งครรภ์

ที่ประชุมองค์การอนามัยโลกปี 2552 ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีทั่วโลกอยู่ที่ 65 ต่อ 1,000 คน ส่วนค่าเฉลี่ยของผู้หญิงในทวีปเอเชียอยู่ที่ 56 ต่อ 1,000 คน โดยประเทศไทยมีผู้หญิงตั้งครรภ์ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 70 ต่อ 1,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดของประเทศในทวีปเอเชีย

ทั้งนี้ ปัจจุบันตัวเลขการตั้งครรภ์ของผู้หญิงไทยที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 90-100 ต่อ 1,000 คนแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

โอ๊ะ โอ๋....ถ้าคนไทยตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงจริ๊ง!!

ดังนั้นการ “คุมกำเนิด” จึงจำเป็นมากต่อสาวใดที่รักสนุกไม่พร้อมจะป่อง หรือไม่อยากจะพลาดท้องก่อนแต่ง แถมฝ่ายชายบางนายมันอาจจะใจสุนัขไล่ไปทำแท้ง กลายเป็นคนบาป ผีเด็กเกาะติดตัวไปซะทุกชาติไปแบบที่ อาจารย์ริว จิตสัมผัส เขาว่าไว้

รักกันไม่ผิด แต่หากริจะมีเซ็กซ์ต้องป้องกันการมีบุตรทุกครั้งไป หากคุณสาวๆยังไม่พร้อม เรามาดูกันจ๊ะ ว่า การคุมกำเนิดเขามีวิธีอะไรบ้าง

วิธีแรก
->ให้แฟนใส่ถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดหาซื้อได้ง่าย ใช้ง่าย ราคาไม่แพง มีทุกเซเว่น ซื้อง่าย ขายคล่อง สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย ปัจจุบันมีออกมาจำหน่ายมากมายตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นผิวสัมผัส ลื่น ขรุขระ กลิ่นสตรอเบอรี่ บลูเบอร์รี่อะไรก็สุดแล้วแต่จะโปรด หรือบางชนิดก็มีการเคลือบสารเคมีฆ่าเชื้ออสุจิ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความพอใจ แต่มีข้อควรระวังคือ ผู้หญิงบางคนอาจจะแพ้วัสดุที่ผลิตถุงยางได้ ดังนั้น ควรเลือกถุงยางที่ผลิตจากยางธรรมชาติ จะเริ่ดที่สุด

วิธีสอง
->กินยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิด เป็น วิธีการคุมกำเนิดที่นิยมกันมากที่สุด และให้ผลดี ซึ่งผลของยาคือ ทำให้ไข่ไม่ตก แต่ก็เป็นหน้าที่ของคุณผู้หญิงที่ต้องไม่ลืมรับประทานยา เพราะถ้าลืมบ่อยๆ ก็อาจจะผิดพลาดเกิดการตกไข่ขึ้นมาได้ และการรับประทานยาคุมกำเนิดนี้ บางคนอาจจะมีอาการแพ้ หรือมีประจำเดือนผิดปกติ จึงต้องสังเกตตัวเองให้ดี

วิธีสาม
->ยาฝังคุมกำเนิด
ยาฝังคุมกำเนิด เป็นการนำฮอร์โมนมาฝังไว้ใต้ผิวหนังช่วงแขนด้านใน ซึ่งเมื่อฝังยานี้เข้าไปแล้วจะคุมกำเนิดได้ถึง 3-5 ปี ถ้าคู่ไหนคิดว่าอยากมีลูกห่างกันขนาดนี้ วิธีนี้ก็สะดวกดีนะ

แต่ดูน่ากลัวก็ตรงฝังแขนนี่แหล่ะ จึงไม่เป็นที่นิยม ฮอตติดลมบนมากนัก

วิธีสี่
->ฉีดยาคุมกำเนิด
เหมาะมากกับคุณผู้หญิงที่ชอบขี้ลืมกินยา เพราะยาคุมมีผลในการคุมกำเนิดเพียงแค่ 1 วัน ส่วนหากใช้วิธีฉีดยาคุมนั้นส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์คุมกำเนิดได้ 3 เดือน ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดียวกับชนิดยากิน แต่มีข้อเสียคือ บางคนอาจจะรอบเดือนไม่มา หรือมากะปริบกะปรอย ซึ่งอาจจะสร้างความอึดอัด หรือรำคาญให้กับคุณสาวๆบางนางได้ และบางรายอาจจะมีอาการแพ้ยาฉีด น่ากลัวชะมัด!

วิธีห้า
->ใส่ห่วงอนามัย
เป็นการใส่เครื่องมือในโพรงมดลูก เหมาะกับผู้หญิงที่เคยมีลูกแล้ว และมีอาการแพ้ยาคุมชนิดกินหรือฉีด ห่วงอนามัยจะมีหลายชนิด ทั้งชนิดที่มีตัวยา และไม่มีตัวยาใดๆ การใส่ห่วงต้องให้คุณหมอเป็นผู้ใส่ให้ อยากมีลูกตอนไหน ก็ให้คุณหมอถอดออกให้ และโดยปกติจะใส่ครั้งละ 3 ปี

วิธีหก
->นับวัน
เรามักจะได้ยินกันว่า ระยะปลอดภัยจากการตั้งครรภ์คือ “หน้า 7 หลัง 7” จากวันที่มีประจำเดือน ซึ่งหมายถึง การกะประมาณระยะเวลาที่ไข่ไม่ตก ดังนั้นจึงปฏิบัติภารกิจโป้งชึ่งกันได้ แต่ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป การคุมกำเนิดวิธีนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีประจำเดือนคลาดเคลื่อน ฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจ และไม่อยากพลาด ไม่ควรใช้วิธีนี้!

วิธีเจ็ด
->หลั่งข้างนอก
วิธีนี้ต้องอาศัยวิทยายุทธ์บู้ลิ้มของฝ่ายชาย ว่าสามารถหลั่งข้างนอกโพรงมดลูกได้ทันหรือไม่ ถ้าแน่ใจก็อาจจะได้ผลคุมกำเนิดอย่างชัวร์เพียงแค่ 80% เท่านั้น เพราะโดยปกติ ก่อนที่จะถึงจุดสุดยอดโดยมีน้ำอสุจิหลั่งออกมา อาจจะมีน้ำเชื้อที่ซึมๆ ออกมาก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ ดังนั้นวิธีนี้อาจจะเสี่ยงเกินไปสำหรับผู้ชายที่วิทยายุทธยังไม่แกร่งกล้า ผ่านศึกไม่โชกโชนมากนัก!

วิธีสุดท้าย
->ทำหมัน
การคุมกำเนิดแบบถาวร หรือศัพท์ง่ายๆตามภาษาชาวบ้าน คือ การทำหมัน นั่นเอง วิธีนี้คุณต้องแน่ใจแล้วว่าไม่ต้องการจะมีลูกอีก สามารถทำได้ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
โดยการทำหมันชาย คือ การเจาะรูเล็กๆ ประมาณ 1 เซนติเมตร เข้าไปผูกท่อนำตัวอสุจิ ใช้เวลาน้อยกว่าการทำหมันหญิงมาก มีแผลเพียงเล็กน้อย และไม่ต้องนอนค้างโรงพยาบาลแต่อย่างใด และไม่มีผลใดๆ ต่อสมรรถภาพทางเพศ ยังดึ๋งดั๋ง โด่ไม่รู้ล้มได้อยู่ ทว่า ผู้ชายบางคนอาจยังมีอคติต่อการทำหมันอยู่ซะส่วนใหญ่
ส่วนทำหมันหญิง จะ คล้ายผู้ชาย คือ การผ่าตัดผูกท่อนำไข่ เป็นการป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ที่ปีกมดลูก คุณแม่ท่านใดที่ตัดสินใจทำหมันหลังจากคลอดลูกภายใน 24 ชั่วโมง จะเรียกว่าทำหมันเปียก แต่ถ้ามาทำภายหลัง เรียกว่า ทำหมันแห้งนะจ๊ะ

ที่มา http://www.manager.co.th/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น